66
แบ่งปันโพสต์
รีวิวคอนโด The Muve Ram 22 (เดอะ มูฟ ราม 22) คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จำนวนการเข้าชม:
104
เดอะ มูฟ ราม 22
3 ซ. รามคำแหง 22 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 ประเทศไทย
รายละเอียดโครงการ
รีวิวคอนโด The Muve Ram 22 (เดอะ มูฟ ราม 22) คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยรามคำแหง
รีวิวคอนโด THE MUVE ราม 22 คอนโด Low Rise ตั้งอยู่ในทำเลที่ย่านรามคำแหง ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย และความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ใกล้เคียง หรือความสะดวกในการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงของโครงการ
การออกแบบของ THE MUVE ราม 22 มีการคำนึงถึงความสะดวกสบายและความเหมาะสมในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะ กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ทำงานและผู้เรียน โดยมีห้องชุดที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของ 1-2 คน และมีครัวปิดในทุกห้อง เพื่อความสะดวกและสมบูรณ์แบบในการใช้งาน
โครงการจะถูกแบ่งเป็น 2 อาคาร โดยอาคาร A จะเน้นให้ความสะดวกสบายในการใช้ส่วนกลางของโครงการ ในขณะที่อาคาร B จะเน้นให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัย โดยมีการจัดส่วนกลางให้เน้นไปที่พื้นที่ทำงานและพื้นที่พักผ่อนที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และยังสามารถชมวิวที่เปิดโล่งจาก Rooftop ของโครงการได้อีกด้วย
นอกจากนี้ โครงการยังมีการขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ โดยได้เตรียมเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดและออกแบบมาเหมาะสมกับตัวห้องไว้ให้แล้ว ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเตรียมเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมอีกด้วย
ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 22 ที่ห่างจากถนนรามคำแหงประมาณ 150 เมตร โดยตำแหน่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างม.รามคำแหงและ The Mall รามคำแหง ซึ่งในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว
ทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นจุดเด่นสำคัญที่นี่ เพราะตั้งอยู่ใจกลางย่านรามคำแหง ใกล้กับ Big C Supercenter หัวหมาก และ The Mall รามคำแหง และสถานีรถไฟฟ้าที่เดินได้สะดวก รวมถึงการเข้าถึงทั้งงาน การศึกษา และศูนย์การค้าต่างๆ ทำให้การเดินทางหาของอย่างง่ายดาย รามคำแหงเป็นศูนย์รวมความอุดมสมบูรณ์ที่มีทั้งงาน การศึกษา และศูนย์การค้าที่หลากหลาย และเป็นที่เจริญเติบโตของโครงการใหม่ๆ ในระยะเวลาหลายปี
บนเส้นทางช่วงต้น มี The Mall ราม 1, 2, 3 ที่ตั้งใกล้กัน โดยในปัจจุบัน The Mall รามคำแหง 2 ได้ถูกทุบและเปลี่ยนเป็นโครงการ Mixed-used เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของย่านนี้ นอกจากนี้ยังมี Foodland และ Big C ให้บริการซื้อของ และ KFC Drive Thru สำหรับคนที่ต้องการอาหารไก่ทอดกรอบๆ โดยไม่ต้องลงจากรถก่อนถึงโครงการ
ช่วงกลางเป็นโซนของสถานศึกษาและพื้นที่กีฬา มีร้านค้าและร้านอาหารสองข้างทาง รวมถึงตลาดนัดให้ช้อปปิ้งในช่วงเย็น
ช่วงปลายเป็นโซนที่คึกคัก ติดกับ รพ.รามคำแหง มีร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงทางลัดเข้า The Mall บางกะปิ และสถานที่อื่นๆ เช่น Happy Land, Tesco Lotus และตลาดบางกะปิ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะจะสะดวก เนื่องจากโครงการห่างจากปากซอยประมาณ 150 เมตร และใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม รามคำแหง 12 ประมาณ 500 เมตร โดยรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2024 และจะเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม และ Interchange กับสายสีเหลืองที่แยกรามคำแหง ทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น
การเดินทางด้วยท่าเรือก็สะดวก เนื่องจากท่าเรือเดอะมอลล์ 3 อยู่หลังเดอะมอลล์ รามคำแหง และสามารถเดินข้ามถนนไปยังท่าเรือได้
ในซอยรามคำแหง 22 ยังมีบริการวินมอเตอร์ไซค์ และป้ายรถประจำทางใกล้ๆปากซอย ทำให้การเดินทางสะดวกและง่ายขึ้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
Big C Supercenter หัวหมาก - ระยะทาง 280 เมตร
ตลาดเสรี หัวหมาก - ระยะทาง 350 เมตร
Major Cineplex รามคำแหง - ระยะทาง 600 เมตร
The Mall รามคำแหง - ระยะทาง 650 เมตร
Foodland รามคำแหง - ระยะทาง 1 กิโลเมตร
The Nine พระราม 9 - ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร
The Mall บางกะปิ - ระยะทาง 4.2 กิโลเมตร
Central พระราม 9 - ระยะทาง 7.2 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลรามคำแหง - ระยะทาง 2.9 กิโลเมตร
โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ - ระยะทาง 4 กิโลเมตร
โรงพยาบาลเวชธานี - ระยะทาง 4.3 กิโลเมตร
โรงพยาบาลวิภาราม - ระยะทาง 7 กิโลเมตร
โรงเรียน
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ประถม) - ระยะทาง 350 เมตร
โรงเรียนนานาชาติ Traill International School - ระยะทาง 650 เมตร
มหาวิทยาลัยรามคำแหง - ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก - ระยะทาง 1.9 กิโลเมตร
โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) - ระยะทาง 2 กิโลเมตร
โรงเรียนอุดมศึกษา - ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (มัธยม) - ระยะทาง 4.4 กิโลเมตร
สถาบัน NIDA - ระยะทาง 5 กิโลเมตร
โครงการ THE MUVE ราม 22 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร 254 ยูนิต โดยมีอาคาร A 121 ยูนิต และอาคาร B 133 ยูนิต บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ โครงการถูกออกแบบในรูปแบบของคอนโดมิเนียมขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความเป็นส่วนตัว โดยมีการใช้งานและการตกแต่งที่เน้นไปที่สไตล์ Modern Style โดยมีการใช้วัสดุและกราฟฟิกสีสันสดใสโดดเด่นตัดกับพื้นหลังสีเทา
พื้นที่ภายในโครงการถูกแบ่งเป็นส่วนที่พักอาศัยและส่วนที่จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยจัดที่ชั้น 1, 3, 4, และชั้นดาดฟ้า เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ส่วนที่พักอาศัยถูกแยกออกจากส่วนกลางโดยไม่รบกวนกัน โดยมีการเน้นส่วนกลางไปที่อาคาร A และอาคาร B จะเป็นอาคารพักอาศัยอย่างเดียว
โครงการตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง 22 และมีที่จอดรถให้เลือกใช้งานทั้งแบบช่องจอดปกติและแบบ Mechanical Parking พื้นที่รอบโครงการถูกจัดแบ่งเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อเน้นการปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นในบริเวณโครงการโดยรอบ
เริ่มต้นจาก Master Plan ของโครงการอาคารซึ่งมีลักษณะเด่นเริ่มต้นจากทางเข้า-ออกของโครงการที่ตั้งอยู่ที่ซอยรามคำแหง 22 มีทางเข้า-ออกหลักที่เชื่อมต่อกับส่วน Drop-Off ซึ่งเชื่อมโยงไปยังทางเข้าของอาคารโดยมีเส้นทางเดินรถที่ออกแบบเป็นแบบสวนทางกัน โดยมีทางลาดที่ช่วยในการเข้าถึงชั้นจอดรถภายในตัวอาคารโดยเฉพาะ ที่ในอาคารจะมี Mechanical Parking ที่ช่วยในการกระจายการใช้งานให้สะดวกยิ่งขึ้น และทำให้สามารถเดินไปยัง Lift Lobby ได้โดยตรงโดยการแยกทางขึ้นอาคาร A และ B ออกจากกัน
ชั้น 1 ของอาคารจะเป็นโซนต้อนรับแบบเฉพาะ โดยแยกส่วน Mailbox และส่วนนิติบุคคลอยู่ในชั้นเดียวกัน ซึ่งมี Rooftop Garden อยู่ด้านบนและมีพื้นที่สวนข้างๆอาคารเพื่อความร่มรื่นและสีสันสดใส ทางเดินที่นี่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถมีการเชื่อมโยงกับ Lift Lobby ของอาคาร A และ B ได้โดยตรง
ชั้น 2 ของอาคาร A จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด 18 ยูนิต โดยแบ่งเป็นห้องขนาด 21.50 – 22.00 ตารางเมตร และห้องขนาด 23.75 – 24.75 ตารางเมตร พร้อมทั้งมี Walkway ที่เชื่อมต่อระหว่างอาคาร A และ B เพื่อความสะดวกในการใช้ส่วนกลางของโครงการ
ชั้น 2 ของอาคาร B จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 19 ยูนิต โดยมีวิวที่สวยงามไปทางซอยรามคำแหง 22 และที่ทางซ้ายของอาคารจะมีวิวเป็นลานจอดรถ และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ส่วนที่เหลือจะมีห้องพักที่มีการจัดผังภายในอย่างครบถ้วน
ชั้น 3 ของทั้งอาคาร A และ B จะเป็นห้องพักอาศัยรวมไปกับส่วน Facilities ของโครงการ โดยมี Co-Working Space, Camera Studio, และ Meeting room ให้บริการ แบ่งส่วนกลางและส่วนพักอาศัยอย่างเหมาะสม
ชั้น 4 ของทั้งอาคาร A และ B จะเป็นห้องพักอาศัยรวมไปกับส่วน Facilities โดยมี Fitness และห้องน้ำส่วนกลางให้บริการ
ชั้น 5 – 7 จะเป็น Typical Plan โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด และมีวิวที่เปิดโล่งไปรอบๆ
ชั้น 8 จะมี Walkway ที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 อาคารและมีห้องพักอาศัยทั้งหมด
ชั้น Rooftop จะมีสวนและพื้นที่กิจกรรมให้บริการสำหรับผู้ใช้งาน ทางโครงการมุ่งเน้นการออกแบบพื้นที่ให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ภาพจำลองบริเวณ Creative Garden แสดงให้เห็นว่ามีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่นี้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นมุมพักผ่อนแบบ Private Zone หรือการใช้งานเป็น Outdoor Workshop โดยมีตำแหน่งปลั๊กไฟและโคมไฟให้พร้อมใช้งาน เป็นส่วนที่เตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมที่ต้องการความสะดวกสบายและความคล่องตัว
ทั้งนี้ ภาพจำลองบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ แสดงให้เห็น Facilities พื้นที่ส่วนกลางของโครงการในชั้น 3 และ 4 ซึ่งเป็นส่วนที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้สะดวก โดยมี Walkway ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร A และ B เพื่อให้ผู้พักอาศัยทางฝั่งอาคาร B เดินมาใช้ส่วนกลางในชั้นนั้นได้โดยสะดวก และไม่ต้องขึ้น-ลงอาคาร A ที่ชั้นล่าง
นอกจากนี้ ภาพจำลองบริเวณ Facilities พื้นที่ส่วนกลางในชั้น 3 ก็มุ่งเน้นการให้บริการและการใช้งานอย่างครบวงจร โดยเน้นที่ Co-Working Space ที่มีการจัดสร้างพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ หรือการทำงานแบบกลุ่ม รวมถึงการเลือกใช้งานใน Private zone สำหรับคนที่ต้องการความเงียบสงบในการทำงาน นอกจากนี้ยังมี Vending Machine & Coffee Station และ Internet WIFI ที่พร้อมให้บริการ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถพักผ่อนและทำงานอย่างเต็มที่ได้ในชั้นนี้
ส่วนภาพจำลองบริเวณ Camera Studio แสดงถึงการออกแบบพื้นที่เพื่อการใช้งาน Studio ถ่ายภาพที่สะดวกสบาย ด้วยการเตรียมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ครบครัน ทั้งกระดาน Whiteboard, จอ TV, และตำแหน่งปลั๊กไฟสำหรับต่ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณนี้ยังมีการแบ่งโซนการใช้งานระหว่าง Camera Studio และ Meeting room โดยมีโต๊ะใหญ่ให้บริการสำหรับการประชุมและทำงานแบบกลุ่ม พร้อมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น กระดาน Whiteboard และจอ TV สำหรับการประชุมแบบ Online ทำให้สามารถใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและครบถ้วนในการประชุมและทำงาน
ชั้น 1:
ล็อบบี้
ตู้ไปรษณีย์
สำนักงานผู้ดูแลอสังหาริมทรัพย์
ห้องซักรีด
Creative Garden
ชั้น 3:
พื้นที่ทำงานร่วม (Co-Working Space)
สตูดิโอถ่ายภาพ (Camera Studio)
ห้องประชุม
ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร A และ B
ชั้น 4:
ฟิตเนส
ชั้น 8:
ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร A และ B
ชั้น Rooftop:
สวนบนหลังคา (Rooftop Garden)
อินเทอร์เน็ตไร้สาย (WIFI) บริเวณส่วนกลางของโครงการ
นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น:
ลิฟท์โดยสาร 1 หลังคาร
อัตราส่วนลิฟท์โดยสารสำหรับโครงการ (127:1)
อัตราส่วนลิฟท์โดยสาร อาคาร A (121:1) และ อาคาร B (133:1)
ที่จอดรถและที่จอดรถอัตโนมัติ (คิดเป็น 30%)
กล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
แบบห้องในโครงการมีห้องชุด 1 Bedroom ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 21.50 - 24.50 ตารางเมตร เหมาะสำหรับ 1-2 คนอยู่อาศัย มีการแบ่งห้องเป็น 3 ขนาดต่างๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานและครบครัน ส่วนวัสดุภัยอื่นๆ ในห้องพักได้รับการจัดเตรียมอย่างดี เช่น พื้นไม้ลามิเนตในห้องพัก กระเบื้องที่เหมาะสำหรับครัวและห้องน้ำขนาด 30 x 30 ซม. และอื่นๆ
ในห้อง 1 Bedroom ทางโครงการได้จัดเตรียมเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานมาให้ครบถ้วน ทั้ง 7 ชิ้น ภายนอกจากส่วนครัวและห้องน้ำ มีการออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานและจัดเก็บของเข้าไว้ในที่ที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีการใช้งานพื้นที่ในห้องอย่างเหมาะสม เช่น การติดตั้งตู้เสื้อผ้าและชุดโซฟา พร้อมที่วางสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานและของใช้ได้อย่างเหมาะสม ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ใช้งานได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพในทุกมุมของห้องพักอาศัย
ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.75 – 24.75 ตร.ม. แบบที่ 2 ซึ่งมีการจัดฟังก์ชันการใช้งานหลักๆคล้ายกับห้อง 1 Bedroom แบบแรก แต่มีการปรับปรุงให้กว้างขวางมากขึ้นในบริเวณห้องนั่งและห้องนอน เพิ่มพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2-3 ตร.ม. รูปแบบการใช้งานคล้ายกันคือมีห้องครัวที่ออกแบบเป็นครัวปิด เพื่อให้สามารถทำอาหารได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควันที่รบกวนส่วนพื้นที่พักอาศัยด้านใน พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องนอน ซึ่งจะมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น และมีพื้นที่เดินเป็น walk-in closet ที่มากขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่เก็บเสื้อผ้ามากขึ้น ส่วนห้องน้ำและระเบียงจะออกแบบการใช้งานคล้ายกับห้อง 1 Bedroom แบบแรก
สำหรับห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.75 – 24.75 ตร.ม. ทางโครงการจะมีชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ทั้งหมด 7 ชิ้น นอกเหนือจากส่วนครัวและห้องน้ำ เริ่มจากบริเวณครัวที่จะได้ชุดตู้วางของและที่เก็บรองเท้าในตัว ต่อมาภายในห้องจะได้ชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ ซึ่งจะมีการเพิ่มตู้เสื้อผ้าให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น โดยจะมีการติดตั้งตู้เสื้อผ้าที่มีลักษณะเป็นตัว L วางไว้ทางด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ เพื่อใช้เป็น walk-in closet ของห้อง มีโต๊ะเคาน์เตอร์ติดผนังและเก้าอี้ ใช้เป็นมุมสำหรับทำงาน และมีกระจกติดผนังใช้เป็นโต๊ะแป้ง ส่วนเตียงจะมีพื้นที่เก็บของที่ปลายเตียงและลิ้นชักใต้เตียง
สำหรับชุดครัวในห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.75 – 24.75 ตร.ม. จะเป็นคล้ายกับห้อง 1 Bedroom แบบแรกทั้งวัสดุและอุปกรณ์ โครงการจะมีตู้ครัวแบบ Built-in ติดตั้งเตาไฟฟ้า Induction พร้อมเครื่องดูดควันและอ่างล้างจานของยี่ห้อ Teka มี Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ พื้นที่ล่างของครัวจะมีพื้นที่สำหรับเก็บของและมีที่ตั้งเครื่องซักผ้า เพื่อประหยัดพื้นที่ระเบียง
ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.25 ตร.ม. เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งการจัดผังภายในห้องจะแตกต่างจาก 2 แบบแรก มีการแบ่งโซนการใช้งานอย่างชัดเจน เน้นพื้นที่ส่วนพักผ่อนอยู่ทางขวามือ ส่วนการบริการของห้องจะอยู่ทางซ้ายมือ เข้ามาในห้องจะเจอส่วนนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน และห้องครัวปิด ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในของตัวห้องโดยมีการแบ่งโซนการใช้งานส่วนเปียกส่วนแห้ง เดินเข้าจากห้องนั่งเล่นได้เลยโดยไม่ต้องผ่านห้องครัว
สำหรับห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.25 ตร.ม. ทางโครงการจะมีชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ทั้งหมด 7 ชิ้น ที่ห้องนั่งเล่นจะได้ตู้เป็นชั้นวางของและที่เก็บรองเท้า โซฟาแบบ 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ ตู้เสื้อผ้าวางไว้ตรงข้ามเตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนังและเก้าอี้ ฐานเตียงจะมีพื้นที่เก็บของที่ปลายเตียงและลิ้นชักใต้เตียงได้
สำหรับชุดครัวภายในห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.25 ตร.ม. จะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom แบบแรกทั้งวัสดุและอุปกรณ์ ตู้ครัวแบบ Built-in มีเตาไฟฟ้า Induction พร้อมเครื่องดูดควันและอ่างล้างจานของยี่ห้อ Teka มี Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ พื้นที่ล่างของครัวจะมีพื้นที่สำหรับเก็บของและมีที่ตั้งเครื่องซักผ้า เพื่อประหยัดพื้นที่ระเบียงไม่ต้องตั้งเครื่องซักผ้าตากแดดตากฝน
ทางโครงการของ THE MUVE ราม 22 มีราคาที่เริ่มต้นตั้งแต่ 1.59 ล้านบาทสำหรับห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 21.50 – 22.00 ตร.ม. และขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง ราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามแต่ละห้อง โครงการมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished โดยมีค่ามัดจำเริ่มต้นที่ 10,000 บาท และมีการผ่อนดาวน์ที่ 5.5% ของราคาห้อง โดยแบ่งชำระเป็น 22 งวด ค่าส่วนกลางและค่ากองทุนจัดสรรคิดเป็นจำนวนตารางเมตรต่อเดือน
ทำเล โครงการ THE MUVE ราม 22 มีทำเลที่ตั้งที่โดดเด่นอยู่ในย่านรามคำแหง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญของโครงการ เดินทางเข้าสู่ซอยรามคำแหง 22 โดยมีระยะทางประมาณ 150 เมตร เป็นย่านชุมชนที่มีความเงียบสงบและเป็นที่ตั้งสำคัญของแหล่งสถานศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ย่านนี้ยังเป็นพื้นที่แหล่งงานและค้าขายที่คนอาศัยกันอย่างหนาแน่น มีทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ สามารถหาของกินของใช้ได้ง่าย ส่วนสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่น โรงพยาบาล และโรงเรียนก็ตั้งอยู่ใกล้เคียง ทำให้การอยู่อาศัยที่นี่มีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์มากขึ้น
การเดินทางโดยใช้รถ สำหรับการเดินทางโดยใช้รถ สามารถเข้า-ออกได้จากถนนหลักที่คือถนนรามคำแหง หรือจะออกมาที่ถนนรามคำแหงฝั่งทางไปทางถนนพระราม 9 โดยมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มใกล้ที่สุดคือ สถานีรามคำแหง 12 เพียง 500 เมตรห่างจากโครงการ ซึ่งทำให้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว โครงการยังมีการจัดที่จอดรถและที่จอดรถอัตโนมัติให้บริการ โดยมีจำนวนเพียง 30% จึงไม่เป็นอุปสรรคในการใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสีส้มเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้อีกด้วย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ โครงการตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยสถานีรามคำแหง 12 ห่างไปเพียง 500 เมตร ทำให้สะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมาก เมื่อสายสีส้มเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินและสายสีเหลือง จะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบริการวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ที่ประจำให้บริการในพื้นที่ ทั้งยังมีท่าเรือเดอะมอลล์ 3 อยู่ทางด้านหลังของเดอะมอลล์รามคำแหง สำหรับการเดินทางทางน้ำเพิ่มเติม
วัสดุ โครงการนี้มีการขายแบบ Fully Furnished โดยมีเฟอร์นิเจอร์หลักที่ครบถ้วนและมีคุณภาพ เช่น ชุดครัวและห้องน้ำที่ครบครัน โดยยังมีการให้เฟอร์นิเจอร์เสริมเพิ่มเติมที่มีประโยชน์ เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น พื้นไม้ลามิเนตและเครื่องใช้สุขภาพที่มีคุณภาพ เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
การออกแบบโครงการ โครงการนี้ได้มีการออกแบบอาคารอย่างชัดเจนเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้อยู่อาศัย โดยการแบ่งพื้นที่อาคารออกเป็น 2 อาคาร เพื่อลดความหนาแน่นในการอยู่อาศัย และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย มีการแบ่งโซนการใช้งานในแต่ละอาคารอย่างชัดเจน ไม่รบกวนหรือมีการแย่งชิดกัน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบห้องอย่างครบถ้วน ซึ่งเน้นความสะดวกสบายและสมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย
สาธารณูปโภค การจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้ถูกจัดวางอย่างเหมาะสม เพื่อให้บรรยากาศในการใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายสำหรับผู้อยู่อาศัย มีการเลือกสิ่งอำนวยความสะดวกในส่วนกลางที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้อยู่อาศัย เช่น สถานที่ทำงาน หรือพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่ต่างๆ ที่เพื่อนำเสนอการใช้ชีวิตที่หลากหลายและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการด้วย
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ:
เดอะ มูฟ ราม 22
เจ้าของโครงการ:
บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ:
3 ซ. รามคำแหง 22 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 ประเทศไทย
เนื้อที่โครงการ:
ประมาณ 1 ไร่
รูปแบบโครงการ:
Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร และอาคาร 1 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนห้องชุด:
254 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A 121 ยูนิต , อาคาร B 133 ยูนิต
รูปแบบห้องชุด:
1 ห้องนอน
พื่นที่ใช้สอย:
21.50 - 24.75 ตร.ม
จำนวนที่จอดรถ:
ที่จอดรถอัตโนมัติ คิดเป็น 30%
ราคาเริ่มต้น:
เริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท
45 บาท / ตารางเมตร
โทร:
1685
เว็บไซต์: